ปรัชญาของการเป็นหมอตา
ในการดูแลผู้ป่วยต้อหิน
"โรคต้อหินเป็นโรคที่ไม่สามารถนำการมองเห็นให้กลับมาได้ ในฐานะหมอต้อหินจะพยายามรักษาด้วยความสามารถสูงสุด แม้ว่าการมองเห็นจะเห็นแค่ไฟเท่านั้น ซึ่งตัวหมอเองเชื่อว่า เพียงการมองเห้นไฟนั้นมีค่ามากมายกว่า การมืดสนิท"
ในการดูแลผู้ป่วยศัลยกรรมรอบดวงตา
"การผ่าตัดเปลือกตาเป็นการผ่าตัดที่มีความคาดหวังสูงเพราะเราทุกคนรู้ดีว่าดวงตาเป็นหน้าต่างแห่งหัวใจ ดังนั้นหมอเชื่อว่านอกจากความสวยงามแล้วมันยังต้องมีความปลอดภัยด้วย การเกิดภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ท่ีมีผลต่อตานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเมื่อใดก็ตามที่หมอได้ลงมีดผ่าตัดให้กับใครแล้ว คนคนนั้นจะเป็นความรับผิดชอบของหมอตลอดชีวิต "
ในการดูแลคนไข้ทุกคน
"หมอเชื่อระบบสาธารณสุขจะล่มสลาย ถ้าเราไม่เริ่มส่งเสริมสุขภาพ เพราะการรักษาโรคหลายอย่างทำให้เสียเวลาและงบประมาณมาก ซึ่งจริง ๆ แล้วโรคส่วนใหญ่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้สำหรับชีวิตที่เหลืออยู่ของหมออยากจะอุทิศตัวเพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นโดยการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับดวงตาและสุขภาพอื่นๆที่หมอมีประสบการณ์ให้กับเพื่อนมนุษย์ "
ปรัชญาในการดำรงชีวิต
หลังจากที่หมอใช้ชีวิตมามากกว่าครึ่งหนึ่งของอายุขัยที่เหลืออยู่ หมอพบว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำรงอยู่คือ การที่เรารู้ว่าสิ่งที่เราหลงใหลคืออะไร อะไรสามารถเติมเต็มชีวิตที่เหลือของเราได้ สำหรับหมอมมันคือ การให้คุณค่ากับคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องทางตาที่ดีขึ้นหรือแม้กระทั่งความงามหรือความมั่นใจที่หมอได้มอบให้กับคนที่ถูกผ่าตัด ที่บางคนอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน สิ่งหนึ่งที่หมอถามตัวเองต่อหน้ากระจกทุกเช้าคือ ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เราจะให้คุณค่าอะไรกับโลกนี้ กับคนรอบข้าง ชีวิตของเรานั้นสั้น จงค้นหาความPassion และทำมัน และอย่าตัดสินคนอื่นถ้าคุณยังไม่รู้จักพวกเขาดีพอ